โดยข้อความจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของเด็กหญิงอายุ 15 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา โพสต์ข้อความสรุปได้ว่า โรงเรียนบอกว่าไล่เธอออกแล้ว พร้อมกับบอกว่า ต่อไปนี้เธอคือบุคคลภายนอก โดยเธอถูกเรียกเข้าไปคุย โดยมีเพื่อนที่เป็นหัวหน้ากับรองหัวหน้าไปด้วย ในห้องนั้น มี รอง ผอ. 2 คน ครูผู้ชาย 2 คน และครูประจำชั้น 2 คน
ซึ่งครูผู้ชาย ถามว่าไปทำอะไรมา ทำไมถึงโดนตาม ทำไมเราถึงไม่ปลอดภัย เธอจึงขอโทรหาผู้ปกครอง พร้อมกับกดอัดเสียง เพราะต้องการแจ้งผู้ปกครองว่าเกิดอะไรขึ้น
"น้องหยก"โพสต์ถูกไล่ออกจากโรงเรียนดังแล้ว โซเชียลเสียงแตก!
ศาลเยาวชนฯสั่งปล่อยตัว"น้องหยก"เยาวชนอายุ 15 ปี คดี ม.112
โดยครูถามว่า เธอไลฟ์หรือ เธอบอกว่าไม่ใช่ แต่บอกตรงๆ ว่าอัดเสียง ซึ่งครูผู้ชายก็บอกว่า รักษาสิทธิแต่ละเมิดสิทธิคนอื่น เธอถามละเมิดสิทธิคนอื่นตรงไหน ครูตอบว่า ก็อัดเสียง
เธอรู้สึกอึดอัดรู้สึกไม่ไหวเลยขอออก แต่ครูห้าม และนั่งขวางทางออกไว้ เธอเลยเลือกที่จะคลานมุดโต๊ะออกไป สุดท้าย รองผอ.ผู้หญิงบอกว่า จะคืนค่าเทอมให้ และบอกว่า จำไว้นะว่าเธอคือบุคคลภายนอก
ล่าสุดเช้าวันนี้ 14 มิ.ย. เด็กหญิงอายุ 15ปี ไปโรงเรียนตามปกติ โดยสวมใส่ชุดไปรเวท กางเกงขายาวสีครีม สวมใส่เสื้อยืดคอกลมสีเขียว รองเท้าผ้าใบสีดำ ย้อมผมสีชมพู หลังจากที่รออยู่บริเวณหน้าโรงเรียนอยู่เป็นเวลานาน โดยมี รปภ. เฝ้าดูใกล้ชิด
แต่ไม่มีทีท่าว่าโรงเรียนจะเปิดประตูให้เธอเข้าไป เธอจึงตัดสินใจปีนประตูเข้าไปในโรงเรียน ก่อนที่ครูจะพาเข้าไปรอผู้บริหาร เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ ขณะเดียวกัน เด็กได้โทรศัพท์ ติดต่อกับ บุ้ง เนติพร โดยแจ้งว่าตอนนี้รออยู่ในห้องประชาสัมพันธ์
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เด็กอายุ 15 ปีเคยโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กว่า ใส่ชุดไปรเวทมาโรงเรียน มา 1 สัปดาห์แล้ว นอกจากนั้น ยังระบุด้วยว่า เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ย้อมสีผมและทำทรงผมที่สะดวก เข้าเรียนตามปกติทุกคาบ เพราะคิดว่าการแต่งกาย และทรงผมไม่ใช่ตัวชี้วัดผลการเรียน
นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทางโรงเรียน ตัดสินใจไล่เด็ก ออกจากโรงเรียน เนื่องจากระเบียบของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ระบุไว้ชัดเจนว่า นักเรียนทุกคนมีคะแนนความพฤติ คนละ 100 คะแนน หากถูกตัดคะแนนเหลือต่ำกว่า 50 คะแนน จะถูกเชิญผู้ปกครอง
และหากยังทำผิดซ้ำ จะต้องเปลี่ยนสถานศึกษา เมื่อเข้าไปศึกษาระเบียบของโรงเรียนแล้วพบว่าการแต่งกายและทรงผมของเด็กอายุ 15 ปี ตลอดเวลากว่า 3 สัปดาห์ ผิดระเบียบมาโดยตลอด เช่น เครื่องแต่งกายผิดระเบียบ หัก 20 คะแนนต่อครั้ง ทรงผมผิดระเบียบแก้ไขไม่ได้โดยเร็ว หัก 20 คะแนนต่อครั้ง เมื่อย้อนดูระเบียบแล้ว หากตัดคะแนนครั้ง 20 คะแนน เด็กคนนี้ ทำผิดระเบียบเกินกว่า คะแนนที่มีอยู่ 100 คะแนนไปแล้วด้วยซ้ำคำพูดจาก เป๋าเงินจริงสำ
จากเรื่องที่ เด็กหญิงอายุ 15 ที่เคยเป็นผู้ต้องหาในคดี 112 ถูกโรงเรียนไล่ออกนั้น บุ้ง เนติพร หนึ่งในสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ซึ่งทำหน้าที่ เป็นผู้ปกครอง ของเด็กคนนี้ ก่อนหน้านี้ บุ้ง เป็นคนเซ็นให้เด็ก ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้
บุ้ง ให้ข้อมูลกับ บีบีซีไว้ว่า ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้ติดต่อเธอมาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยบอกว่า ถ้าวันที่ 10 มิ.ย.พ่อ แม่ ของเด็กอายุ 15 ปี มาไม่ได้ โรงเรียน จะลบชื่อเด็กออกจากโรงเรียน บุ้งพยายามติดต่อกับ พ่อ แม่ ของเด็กหญิงอายุ 15 ปี แล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ ซึ่งทางโรงเรียนเองก็ติดต่อไม่ได้เช่นเดียวกัน
บุ้งเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ เด็กหญิงอายุ 15 ปี ขณะถูกครูเรียกพบ แล้วแจ้งว่า ต่อจากนี้ไป เธอไม่ใช่คนของโรงเรียนนี้ โดยเด็กหญิงอายุ 15ปี ยืนยันว่า การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เธอต้องได้รับ และเช้าวันนี้ (14 มิ.ย. 2566) ได้ใส่ชุดไปรเวท เดินทางไปที่โรงเรียน และพยายามเข้าเรียนตามปกติ แต่กลับมีคำสั่งของผู้บริหาร ห้ามเธอเข้าไปในโรงเรียน
ล่าสุด ทีมข่าว พีพีทีวี ติดต่อสอบถาม น.ส.จินตนา ศรีสารคาม ผู้อำนวยการ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ซึ่งผู้อำนวยการ บอกว่า วันนี้จะยังไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ยืนยัน ว่าไม่ได้ไล่ เด็กออกจากโรงเรียน เพราะมีกฎอยู่แล้วว่าไล่นักเรียนออกไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทางผู้อำนวยการระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 มิ.ย.) โรงเรียนจะออกแถลงการณ์เป็นหนังสือ เพื่อชี้แจงประเด็นดังกล่าวนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อว่า โรงเรียนจะออกมาชี้แจงว่าอย่างไร