จากกรณีที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้นชื่อดังจาก “เชฟอ้อย” หรือ ยุวดี ชัยศิริพาณิชย์ เชฟเจ้าของแฟรนไชส์ ออกมาโพสต์แฉผ่านเฟซบุ๊กถึงเชฟอ้อย โดยอ้างว่า ตนรู้สึกว่าระบบแฟรนไชส์ไม่มีความแฟร์กับผู้ซื้อ และมีผู้ได้รับผลกระทบแบบเดียวกันหลายคน พร้อมระบุว่า หลายคนเพิ่งได้รับเครื่องทำลูกชิ้น หลังซื้อแฟรนไชส์มา 3-4 เดือน
จากนั้นจึงเกิดเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียล จนกระทั่งทั้งสองฝ่ายได้มาออกรายการโหนกระแสในที่สุด ซึ่งวันนี้ เราจะมาสรุปดราม่าแฟรนไชส์ลูกชิ้นที่เป็นประเด็นในขณะนี้กัน
รู้จัก "เชฟอ้อย" เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นดัง อดีตผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็ก!
โต้เดือด! “เชฟอ้อย” ยอมรับไม่มีประสบการณ์ทำธุรกิจ “แฟรนไชส์ลูกชิ้น”
แฉ “เชฟอ้อย” เอาปรียบ ไม่แฟร์ผู้ซื้อแฟรนไชส์
ราววันที่ 8 ธ.ค. 66 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความพร้อมรูปของเชฟอ้อย ระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายจากแฟรนไชส์นี้เกิน 40 คน ที่ไม่ออกมาพูดเพราะกลัวถูกยึดแฟรนไชส์คืน ระบบทุกอย่างสร้างมาเพื่อเอาเปรียบ ผู้ซื้อแฟรนไชส์หลายคนเกิดความเครียด และจะไม่ยอมให้ลอยนวลต่อไป
จากโพสต์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นกระแสขึ้น
“เชฟอ้อย” โต้ เตรียมเอาผิดต้นโพสต์
ไม่นาน หลังโพสต์ดังกล่าวเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพจเฟซบุ๊กร้าน CHARM GARDEN ซึ่งเป็นร้านที่เชฟอ้อยเป็นเจ้าของ ก็ออกมาโพสต์รูปของโพสต์ดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า มีเพจเพจหนึ่งลงข้อความและรูปภาพ ซึ่งเข้าข่ายการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คอมฯ
จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งผู้โพสต์ ผู้ที่คอมเมนต์ ในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย และผู้ที่แชร์ต่อ และจะไม่ขอรับคำขอโทษ คำขอขมา หรือยอมความใด ๆ เพื่อให้เป็นเคสตัวอย่าง
สู่รายการ “โหนกระแส”
กระทั่งวันที่ 11 ธ.ค. 66 รายการโหนกระแส ได้นำเชฟอ้อย และผู้เสียหายมาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเชฟอ้อยชี้แจงว่า กิจการตนขายดี มีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์ก็ขายให้ ที่เครื่องอุปกรณ์ล่าช้าไม่ใช่ว่าดึงเกม เชฟมัดจำเครื่อง ส่งเครื่อง จีนตอบกลับมาว่ามันดีเลย์ ฝนเข้า เขาเลื่อนเรามาเรื่อย เราก็ต้องเลื่อนเขาไปเรื่อย
ก่อนหน้านี้เคยมีคนซื้อแฟรนไชส์แล้ว จ่ายครึ่งหนึ่งแล้ว สั่งเครื่องไปแล้ว แต่ไม่ยอมมาเรียน อ้างเหตุผลต่างๆ แล้วขอเงินคืน ซึ่งในเคสก่อนหน้านี้ได้คืนเงินไปให้ทุกราย มีประวัติการคืนเงินทุกคน ดังนั้นจึงแก้ปัญหาด้วยการจ่ายเงินรอบแรกครึ่งหนึ่งก่อน พอมาเรียนก็จะเริ่มสั่งเครื่องให้ ก่อนจ่ายในรอบสุดท้าย
ด้าน นายแมน หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนจ่ายค่าแฟรนไชส์ 2 แสน หวังสร้างรายได้ แต่เชฟอ้อยกลับเบี้ยวสัญญา ส่งอุปกรณ์ทำลูกชิ้นล่าช้าจนเสียโอกาสทำมาหากิน พักหลังๆ ขายไม่ดี แบกรับต้นทุนไม่ไหว
จึงหยุดกิจการลูกชิ้น แล้วผันตัวมาขายก๋วยเตี๋ยว แต่กลับถูกเชฟอ้อยโทรมาด่าว่าขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนเขา ดังนั้นจึงอยากถามกลับว่า ขายก๋วยเตี๋ยวมันผิดด้วยหรือ? พร้อมโชว์หลักฐานในไลน์ที่คุยกับเชฟอ้อยด้วย
ก๋วยเตี๋ยวคุณขายก่อน ผมแต่ผมไม่มีสิทธิ์อะไรไม่ขายเหรอ คุณขายได้คนเดียวเหรอ ผมซื้อแฟรนไชส์คุณมาเหรอ ผมเกิดมาทั้งชีวิต ไม่มีใครด่าผมแล้วเดินไปได้ ผมต้องด่ากลับ
นายแมน ทิ้งท้ายว่า การเดินทางมาวันนี้ เพราะอยากหาความยุติธรรมให้กับทุกคน วันนี้หลัก ๆ คือการผิดสัญญา 2 เรื่อง คือ เรื่องของเครื่องปั้นลูกชิ้น กับเรื่องที่ขายลูกชิ้นให้กิโลละ 100 บาท
ประเด็นนี้ เมื่อเชฟอ้อยให้ขายกิโลละ 100 บาท ตนจะไปเอากำไรจากตรงไหน ดังนั้นจึงอยากถามกลับว่า เชฟเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดเชฟช่วยแก้ปัญหาอะไรให้เขาบ้าง การออกมาวันนี้ ก็เพื่อมาเรียกร้องว่าผู้ที่ชื้อแฟรนไชส์ไปถูกเอารัดเอาปรียบหรือไม่ หรือมีสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือเปล่า
ทนายชี้ ฟ้องเชฟอ้อยได้ ฐานทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ
ขณะที่ทนายไพศาล ชี้แจงเรื่องข้อกฎหมาย ระบุว่า ที่ฟังมาทั้งหมดเข้าข่ายฟ้องร้องทางแพ่งได้ เพราะเชฟไม่ปฏิบัติตามสัญญา ผิดกฎ ผิดเงื่อนไข สัญญาไม่เป็นธรรม จัดส่งเครื่องอุปกรณ์ล่าช้า ทำให้เสียโอกาสในทางธุรกิจ
ส่วนกรณีที่บอกว่าผู้เสียหายรายอื่นเอาสูตรของเชฟอ้อยไปดัดแปลงนั้น ในทางกฎหมาย สูตรอยู่ในฐานะการคุ้มครองการค้า สูตรสามารถคิดค้นได้ใหม่ เชฟขายไปแล้ว เขาดัดแปลงได้ สูตรอาหารไม่ใช่ลิขสิทธิ์
ขอบคุณภาพจาก :CHARM GARDEN, โหนกระแส
หลุดแชทเด็ก 17 ปี เรียกเพื่อนมารับหลังรู้ตัวถูก “สมรักษ์” พามาโรงแรม
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566 คำพูดจาก สล็อตวอเลท
กู้ภัยระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้สูญหายในทะเลหาดจอมเทียน ยังไม่ชัดมีกี่คน